EV Charging Mode and Safety Level

รูปแบบการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและระดับความปลอดภัย

โดยเบื้องต้นการชาร์จรถ EV สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน อุปกรณ์ที่มีอยู่ รวมไปถึงระบบไฟฟ้า ซึ่งตามมาตรฐาน IEC-62196 สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

1. MODE 1 : สาย AC TO DC Cable ตรงกับไฟบ้าน

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ผ่านปลั๊กไฟมาตรฐานตามที่พักอาศัยทั่วไปโดยตรงได้ เป็นสายชาร์จรถไฟฟ้าแบบธรรมดาที่ไม่มีระบบป้องกันภัย สามารถส่งกระแสไฟได้สูงสุดที่ 11 A ในระบบไฟ 3 Phase ส่วนในระบบไฟ 1 Phase สามารถส่งกระแสไฟได้ 3.7 A ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำ ทำให้ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่นาน
เช่น หากต้องการชาร์จไฟรถยนตร์ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่ขนาด 33.5kW สำหรับการชาร์จที่ 3.7 A นั้นอาจจะต้องใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมงจึงจะเต็ม นอกจากนี้การดึงกำลังไฟสูงจากเครื่องชาร์จจะทำให้สายไฟสะสมความร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ หากใช้ไฟเกินหรือชาร์จต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ได้

2. MODE 2 : สาย AC TO DC Cable ไม่มี Protection Device

เป็นระบบชาร์จที่มีวงจรเฉพาะในการชาร์จรถ EV แต่ไม่มีระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน การชาร์จในโหมดนี้ปริมาณกระแสสูงสุดที่ระบบสามารถจ่ายได้เป็น 32A หากเป็น 1 Phase ได้พลังงาน 7.4 kW และ 22 kWh สำหรับ 3 Phase จึงใช้เวลาชาร์จเพียงครึ่งหนึ่งของโหมด 1 เท่านั้น ซึ่งสายชาร์จรถไฟฟ้าที่แถมมากับตัวรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะเป็นการชาร์จประเภทนี้
ซึ่งไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับการเสียบทิ้งไว้ทั้งคืนเพราะไม่มีระบบตัดไฟเมื่อชาร์จเต็ม จึงควรใช้ในยามจำเป็นหรือระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น แต่โดยปกติเจ้าของรถมักจะเสียบค้างไว้ทั้งคืน ทำให้ไฟไหลเข้าตลอดเวลา จึงมีโอกาสเกิดอันตรายหรือทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมเร็วกว่าที่ควร

3. MODE 3 : Fixed, Dedicated Circuit-Socket

ที่ชาร์จรถไฟฟ้า ประเภทนี้เรียกได้ว่ามีความปลอดภัยมากที่สุดสำหรับการชาร์จรถ EV ที่บ้าน ซึ่งต้องทำการชาร์จผ่านตัว EV Charger ซึ่งตัวรถจะเชื่อมต่อเครือข่ายไฟฟ้าโดยตรงผ่านปลั๊กและเต้ารับแบบพิเศษของตัวเครื่องชาร์จ มีวงจรเฉพาะที่สามารถชาร์จได้ที่ 3.7 – 22 kW มีการติดตั้งระบบป้องกันภัย เช่น ป้องกันอุณหภูมิเกิน มีระบบสายดิน มีระบบป้องกันโหลดเกินขณะชาร์จ สามารถเพิ่มอุปกรณ์กันไฟรั่วและกันไฟกระชากเพื่อความปลอดภัย

4. MODE 4 : DC Connection

EV Charger ทั้ง 3 ประเภทที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นการต่อตรงกับแหล่งจ่ายไฟบ้านหรืออาคาร แตกต่างจากระบบของประเภทที่ 4 นี้ ที่จะรับไฟจากสถานีชาร์จที่แปลงไฟกระแสสลับไปเป็นไฟกระแสตรง แล้วจ่ายไฟกระแสตรงเข้าที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยตรง ไม่ต้องผ่าน On Board Charger ซึ่งสามารถชาร์จได้ถึง 50kW หรือที่เรียกกันว่า Fast Charge ซึ่งสถานีชาร์จประเภทนี้จะมีค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนและความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าสูง เราจะสามารถพบเครื่องชาร์จประเภทนี้ได้ตามสถานีเติมน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn
On Key

Related Posts